รู้หรือไม วันคริสต์มาสเคยถูกยกเลิก

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 คลื่นแห่งการปฏิรูปศาสนาได้เปลี่ยนวิธีการเฉลิมฉลองคริสต์มาสในยุโรป เมื่อโอลิเวอร์ครอมเวลล์และกองกำลังเจ้าระเบียบเข้ายึดครองอังกฤษในปี 1645 พวกเขาสาบานว่าจะกำจัดอังกฤษให้สิ้นซากและยกเลิกคริสต์มาสในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามของพวกเขา ตามความต้องการที่เป็นที่นิยม Charles II จึงได้รับการฟื้นฟูขึ้นสู่บัลลังก์และการกลับมาของวันหยุดยอดนิยม ผู้แสวงบุญซึ่งเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนชาวอังกฤษที่เข้ามาในอเมริกาในปี 1620 มีความเชื่อที่เคร่งครัดในลัทธิเคร่งครัดมากกว่าครอมเวลล์ ด้วยเหตุนี้คริสต์มาสจึงไม่ใช่วันหยุดในอเมริกาตอนต้น ตั้งแต่ปี 1659 ถึง 1681 การเฉลิมฉลองคริสต์มาสถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายในบอสตัน ใครก็ตามที่แสดงสปิริตคริสต์มาสถูกปรับห้าชิลลิง ในทางตรงกันข้ามในการตั้งถิ่นฐานของเจมส์ทาวน์กัปตันจอห์นสมิ ธ รายงานว่าทุกคนมีความสุขในเทศกาลคริสต์มาสและผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังการปฏิวัติอเมริกาศุลกากรของอังกฤษไม่ได้รับความนิยมรวมทั้งคริสต์มาสด้วย อันที่จริงคริสต์มาสไม่ได้ประกาศให้เป็นวันหยุดของรัฐบาลกลางจนถึงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2413

-->

คำอวยพรยอดฮิตในวันคริสต์มาส

สำหรับวันคริสต์มาสท่ถือว่าเป็น คำอวยพรที่เรามักได้ยินกันคือ “Merry Christmas” แปลว่า “สันติสุข” บางครั้งก็นิยมพูดว่า “Merry Xmas” เนื่องจากตัวอักษร X ในภาษากรีก เป็นตัวอักษรตัวแรกของคำว่า “Χριστός” ที่หมายถึง “คริสต์” นอกจากนี้ก็ยังมีคำอวยพรอื่นๆ ที่นิยมมอบให้แก่กันในวันคริสต์มาส เช่น Happy Christmas – สุขสันต์วันคริสต์มาส Merry Christmas and a Happy New Year – สุขสันต์วันคริสต์มาสและสวัสดีปีใหม่ Wishing you a prosperous New Year – ขอให้เป็นปีใหม่ที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง May Santa Claus bring everything you wished for. Merry Christmas – ขอให้ซานตาคลอสนำทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณปรารถนามามอบให้ สุขสันต์วันคริสต์มาส Praying you have a wonderful Christmas filledRead More

-->

โบสถ์คริสต์ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี

โบสถ์คริสต์ หรือที่มีชื่อว่า อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ที่จังหวักจันทบุรีนั้นถือว่าเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่น่าไปและเป็นแหล่งที่สนใจของนักท่องเที่ยวอีกหนึ่งสถานที่ โดยโบสถ์แห่งนี้มีประวัติความเป็นมา ที่มาของการสร้างโบสถ์แห่งนี้เริ่มจากชาวคาทอลิกเวียดนามจำนวน 120-130 คน ที่อพยพหนีการเบียดเบียนทางศาสนาในโคชิน มาตั้งรกรากอยู่ที่จันทบุรี และได้ร่วมมือกับคุณพ่อเฮิ้ต โตแลนติโน สร้างโบสถ์ไว้เป็นศาสนสถาน โบสถ์สร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2254 บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี เป็นโบสถ์ขนาดเล็ก ต่อมามีความวุ่นวายเกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวคริสต์คาทอลิกแยกย้ายกระจัดกระจายกันไป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2295 ชาวคริสต์คาทอลิกก็ได้กลับมารวมตัวกันใหม่ และได้สร้างโบสถ์ใหม่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรี (สถานที่ตั้งในปัจจุบัน) ในปี พ.ศ. 2377 ในปี พ.ศ. 2446 ได้ก่อสร้างโบสถ์หลังปัจจุบันขึ้น (โบสถ์หลังที่ 5) ให้มีขนาดใหญ่กว่าหลังเก่าเพื่อรองรับกับจำนวนคริสตศาสนิกชนที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญต่างๆ ซึ่งมีความงดงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั้นได้มีการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนถึงปี พ.ศ. 2528 ได้มีการจัดงานฉลองโบสถ์คาทอลิกจันทบุรีครบรอบ 75 ปี ขึ้นในปีดังกล่าวด้วย นับได้ว่าโบสถ์คาทอลิกแห่งนี้เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และกล่าวกันว่ามีความงดงามมากที่สุดในประเทศไทย ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการมาถ่ายรูปจะเป็นช่วงบ่าย เนื่องจากว่าไม่ย้อนแสง ถ่ายรูปออกมาแล้วเห็นรายละเอียดสวย ในช่วงบ่ายโบสถ์จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายในได้ในเวลา 13.00Read More

-->

ศาสนาคริสต์ในตะวันตก

ศาสนาคริสต์ตะวันตกหมายถึงกลุ่มคริสตจักรโรมันคาทอลิก คริสตจักรแองกลิคัน และคริสตจักรฝ่ายโปรเตสแตนต์ที่มีคุณสมบัติร่วมกันย้อนได้ถึงสมัยกลาง คำนี้ใช้เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างกับศาสนาคริสต์ตะวันออกศาสนาคริสต์ตะวันตกส่วนใหญ่แล้วพบได้ในทวีปยุโรปตะวันตก สแกนดิเนเวีย ยุโรปกลาง ยุโรปใต้ บางส่วนของยุโรปตะวันออก แอฟริกาเหนือ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย รวมเป็น 90% ของประชาคมชาวคริสต์ทั่วโลก คริสตจักรโรมันคาทอลิกเองมีผู้นับถือมากกว่าครึ่งหนึ่ง ถึงแม้ว่าในอดีตมีการขัดแย้งกันอย่างรุนแรงระหว่างคาทอลิกกับโปรเตสแตนต์ แต่ล้วนมีรากเหง้ามาจากกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาละติน มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม ซึ่งตรงข้ามกับฝากตะวันออกที่ใช้ภาษากรีก มีศูนย์กลางอยู่ที่คอนสแตนติโนเปิล ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความเชื่อ และการแข่งขันทางการเมืองนี้เองที่ทำให้เกิดศาสนเภทตะวันออก-ตะวันตก (East-West Schism) ขึ้น จนถึงทุกวันนี้

-->

รวมดนตรีคริสต์มาส

สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างของเทศกาลคริสต์มาสนั้นก็คือการร้องเพลง การร้องเพลงนั้นช่วยสงเสริมให้วันคริสต์มาสดูมีความสุขและคอยมอบความสุขให้กับทุกคนวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าวันคริสต์มาสนั้นจะมีเพลงอะไรบ้างที่นิยมในการร้องเพลงคริสต์มาส ประกอบด้วยแนวเพลงหลากหลายแนว ที่จะแสดงหรือได้ยินในช่วงเทศกาลคริสต์มาส มักจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม จนถึงเทศกาลคริสต์มาส จนจบในสุดสัปดาห์ของเทศกาล “ขอเชิญท่านผู้วางใจ””จงฟังเพลงแห่งทูตสวรรค์””จอยทูเดอะเวิลด์””จิงเกิลเบลส์””เป็นเวลาที่พระคริสต์ได้ประสูติ””พระคุณพระเจ้า””ราตรีสงัด ราตรีสวัสดิ์””ไวท์คริสต์มาส””ออลไอวอนต์ฟอร์คริสต์มาสอีสยู”

-->

ทำความรู้จัก พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์

สำหรับพวกเราชาวคริสนั้นก็น่าจะรู้พิธีนี้เป็นอย่างดี พิธีมหาสนิทมีที่มาจากเหตุการณ์ในคืนวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ก่อนการตรึงพระเยซูที่กางเขน ขณะนั้นพระเยซูรับประทานอาหารร่วมกับอัครทูตอันเป็นอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ในการรับประทานอาหารครั้งนั้นอยู่ในช่วงปัสคา มีเพียงขนมปังและเหล้าองุ่น ซึ่งพระองค์ใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งพันธสัญญาใหม่ ในการไถ่บาปด้วยเนื้อและเลือดของพระองค์ดังที่ทรงพยากรณ์ไว้แล้ว พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ หรือพิธีมหาสนิท คริสต์ศาสนิกชนโรมันคาทอลิก, อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และโปรเตสแตนต์บางคณะเรียกว่าศีลมหาสนิท เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาคริสต์ เพื่อแสดงถึงการร่วมสนิทกับพระเยซู โดยการรับประทานขนมปัง (สัญลักษณ์แทนพระกายของพระองค์) และไวน์ (สัญลักษณ์แทนพระโลหิต) การประกอบพิธีมหาสนิท เพื่อให้ชาวคริสต์ระลึกถึงคุณของพระเป็นเจ้า เพื่อการประกาศยอมรับว่าพระเจ้าได้สถิตอยู่ในกายตน เพื่อแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ และเพื่ออยู่ร่วมกันด้วยความรักในประชาคมเดียวกันในนิกายโปรเตสแตนต์ กล่าวคำที่ใช้ในพิธีมหาสนิทตามพระวรสารนักบุญลูกา ส่วนนิกายโรมันคาทอลิก กล่าวคำที่ใช้ในพิธีมหาสนิทเฉพาะตามที่พระศาสนจักรคาทอลิกกำหนด

-->

แม่พระรับสาร คืออะไร

โดยเหตุการที่แม่พระรับสารนั้นเกิดขึ้นเมื่อไร  ไม่ทราบได้ แต่เมื่อมีการฉลองวันการประสูติของพระเยซูในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี ก็มีผู้ริเริ่มจัดการฉลองเหตุการณ์แม่พระรับสารนี้ขึ้นในวันที่ 25 มีนาคมของทุกปี เรียกว่า “วันแม่พระรับสาร” (Annunciation of the Lady’s Day) โดยนับถอยหลังจากวันคริสต์มาสขึ้นไปเก้าเดือน และเหตุการณ์แม่พระรับสาร ตามพระคัมภีร์ไบเบิลมีดังนี้ เมื่อถึงเดือนที่หก พระยาห์เวห์ทรงใช้ทูตสวรรค์กาเบรียลนั้นให้มายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลี ชื่อ นาซาเร็ธ มาถึงหญิงพรหมจารีคนหนึ่งที่ได้หมั้นกันไว้กับชายคนหนึ่งที่ชื่อ โยเซฟ เป็นคนในเชื้อวงศ์ดาวิด หญิงพรหมจารีนั้นชื่อ มารีย์  ทูตสวรรค์เข้าบ้านมาถึงหญิงพรหมจารีนั้น แล้วว่า เธอผู้ซึ่งพระเจ้าทรงโปรดปรานมาก จงจำเริญเถิด พระเป็นเจ้าทรงสถิตอยู่กับเธอ  ฝ่ายมารีย์ก็ตกใจเพราะคำของทูตนั้น และรำพึงว่า คำทักทายนั้นจะหมายว่าอะไร  แล้วทูตสวรรค์จึงกล่าวแก่เธอว่า มารีย์เอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะเธอเป็นที่พระเจ้าทรงโปรดปรานแล้ว  ดูเถิด เธอจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย จงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า เยซู  บุตรนั้นจะเป็นใหญ่ และจะทรงเรียกว่าเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้าสูงสุด พระเจ้าจะทรงประทานพระที่นั่งของดาวิด บรรพบุรุษของท่าน ให้แก่ท่าน  และท่านจะครอบครองพงศ์พันธุ์ของยาโคบสืบไปเป็นนิตย์ และแผ่นดินของท่านจะไม่รู้จักสิ้นสุดเลย  ฝ่ายมารีย์ทูลทูตสวรรค์นั้นว่า เหตุการณ์นั้นจะเป็นไปอย่างไรได้ เพราะข้าพเจ้ายังหาได้ร่วมกับชายไม่  ทูตสวรรค์จึงตอบนางว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จลงมาบนเธอ และฤทธิ์เดชของผู้สูงสุดจะปกเธอ เหตุฉะนั้น บุตรที่จะเกิดมานั้นจะได้เรียกว่าวิสุทธิ์ และเรียกว่าพระบุตรของพระเจ้า  ดูซิ ถึงนางเอลีซาเบธญาติของเธอชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์มีบุตรเป็นชายด้วย บัดนี้ นางนั้นที่คนเขาถือว่าเป็นหญิงหมัน ก็มีครรภ์ได้หกเดือนแล้ว  เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเจ้าทรงกระทำไม่ได้  ส่วนมารีย์จึงทูลว่า ดูเถิด ข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้าRead More

-->

วิทยาลัยสารพัดช่างตราด ครองแชมป์แกะสลักหิมะน้ำแข็งสมัยที่ 10

โดยในปี 2019 วิทยาลัยสารพัดช่างตราด ได้ครองแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 10 นักศึกษาอาชีวศึกษาจำนวน 3 ทีม ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี และวิทยาลัยสารพัดช่างตราด เข้าร่วมการแข่งขันจากผู้เข้าร่วมทั้งหมด 5 ประเทศ 2 เขตปกครองพิเศษ รวมจำนวน 55 ทีม  ประกอบด้วย 1.ไทย 2. รัสเซีย 3.เดนมาร์ก 4 อังกฤษ 5 จีน 6. ฮ่องกง และ 7. ไต้หวัน  ทีมวิทยาลัยสารพัดช่างตราด ได้รับรางวัล Top grade Awards ซึ่งเป็นรางวัลคะแนนรวมสูงสุดของการแข่งขันในครั้งนี้ และได้รับรางวัลสุดยอดความคิดสร้างสรรค์ (Best Creative award) ของการแข่งขัน จากผลงาน “Rescue Mission Rivets Thamluang caves in Chiangrai Thailand.” จากการพบรอยนิ้วมือคนเกาะตามถ้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหวัง และสร้างพลังใจให้กับทุกคนRead More

-->

สิ่งที่ปฏิบัติในเทศกาลคริสต์มาส

เทศกาลคริสต์มาสที่จะตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปีนั้นถือว่าเป็นเทศกาลแห่งความสุขอีกหนึ่งเทศกาลและทำให้ครอบครัวได้มาเจอกับพร้อมหน้าพร้อมตากันในรอบปีและเป็นเทศกาลที่เด็กนั้นรอค่อยการได้รับของขวัญวันนี้เราจะมาดูกันว่าแท้จริงแล้วเทศกาลคริสต์มาสนั้นมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไร เทศกาลคริสต์มาสถือเป็นเทศกาลที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข มีการจัดงานเฉลิมฉลอง ประดับต้นคริสต์มาสตามสถานที่ต่างๆ และจัดแสดงแสง สี เสียง อย่างสวยงาม สมัยก่อนชาวโรมันนิยมมอบของขวัญที่มีค่าให้แก่กัน เช่น อาหาร ขนม และทองคำ ในขณะที่ชาวยุโรปมักบริจาคทาน มอบของขวัญ และของใช้ให้แก่คนไร้บ้าน ในปัจจุบันถือเป็นวันที่ครอบครัวจะได้กลับมาฉลองร่วมกัน มีการมอบของขวัญ ส่งการ์ดอวยพร ทำขนมอบ และรับประทานอาหารมื้อค่ำ ส่วนเด็กๆ จะรวมตัวกันร้องเพลงตามบ้านและโบสถ์ อีกทั้งนิยมนำถุงเท้ามาแขวนไว้หน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญจากซานตาคลอส (ซึ่งก็คือพ่อแม่ของพวกเขา)

-->

การเตรียมขนมและนมให้กับซานต้า

เชื่อกันว่าซานต้าจะมาหาเด็กๆ ในคืนวันก่อนคริสต์มาส เพื่อส่งมอบของขวัญที่เด็กๆ ปรารถนา ซานต้าต้องทำงานหนักเพราะต้องรีบส่งขวัญให้เด็กๆ ก่อนถึงเวลารุ่งเช้า ดังนั้นเพื่อเป็นการขอบคุณซานต้าที่ จึงเกิดประเพณีการวางคุ้กกี้พร้อมนมสด ไว้ข้างๆ เตาผิง สำหรับให้ซานต้า ในบ้างครั้งอาจจะมีแครอทให้สำหรับกวางเรนเดียร์ทั้ง 9 ตัวด้วย นิยมทำก่อนเข้านอน 

-->