สำหรับชื่อเสียงของ เทศกาลหิมะ ที่ซัปโปโระ นั้นโด่งดังไปทั่วโลกเพราะเมื่อถึงหน้าเทศกาลที่ซัปโปโระ จะครึกครักเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างเข้าชมถือว่าเป็นศิลปะหรือโชว์ที่อลังการณ์โดยเทศกาลนี่จะจัดขึ้น ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกๆ ปี บนพื้นที่จัดงาน 3 ส่วนคือ สวนสาธารณะโอโดริ ย่านการค้าซูซูกิโนะ และซัปโปโระคอมมูนิตีโดม (สึโดมุ) ในงานมีการนำเสนอประติมากรรมที่สร้างจากหิมะและน้ำแข็งเป็นจำนวนนับร้อยชิ้น เทศกาลหิมะซัปโปโระเป็นเทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และมีผู้เข้าชมงานจากทั่วโลกกว่า 2 ล้านคนทุกปี เทศกาลหิมะของนครซัปโปโรเริ่มขึ้นเมื่อราว ปี ค.ศ. 1950 โดยความร่วมมือของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวซัปโปโรและเขตซัปโปโร ในเทศกาลหิมะครั้งแรกนี้ เพราะไม่มีใครเคยสร้างรูปปั้นหิมะมาก่อน คณะกรรมการจัดงานจึงต้องขอร้องให้นักเรียนชั้นมัธยมปลายในเมืองซัปโปโรร่วมกันก่อรูปปั้นหิมะขึ้น จนได้รูปปั้นจำนวน 6 ชิ้นในบริเวณลานในสวนสาธารณะโอโดริซึ่งเดิมใช้เป็นที่ทิ้งหิมะ รูปปั้นหิมะรุ่นแรก ๆ นั้นมีความสูงอย่างมากเพียง 7 เมตรเท่านั้น แต่ในงาน 4 ในปี ค.ศ. 1953 มีการสร้างรูปปั้นที่มีขนาดสูงถึง 15 เมตร ซึ่งต้องใช้หิมะจำนวนมาก จึงต้องใช้รถบรรทุกและรถดันดินมาช่วยในการสร้าง และนับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรูปปั้นหิมะขนาดใหญ่อย่างในปัจจุบัน ในปี 1954 เริ่มมีผลงานของชาวเมืองเข้าร่วมในงาน ในปี 1955 มีผู้เข้าร่วมแสดงผลงานมากขึ้น ซึ่งรวมทั้งกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นได้อาสาเข้าร่วมจัดงานขึ้นที่พื้นที่มาโกมาไน ตั้งแต่งาน 10 ในปี 1959 ก็เริ่มมีผู้ชมจากนอกจังหวัดฮกไกโดมาชมมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวที่ซัปโปโระในปีRead More
-->
เข้าสู่ช่วงเวลาที่ใครหลายๆ คนน่าจะตั้งตารอคอยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นช่วงเวลาของเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่นั่นเอง ถึงแม้ว่าที่ประเทศไทยจะไม่มีหิมะสีขาวๆ ตกมาให้เราๆ ได้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกัน แต่การออกไปหาสถานที่สวยๆ หรือไปเดินดูของขวัญตามงานต่างๆ ก็เป็นกิจกรรมที่ทุกคนตั้งตารอคอย ZipEvent ได้รวบรวมงานอีเว้นท์งานคริสต์มาสมาฝาก ไม่ว่าจะเป็นงานช้อปปิ้ง เดินเล่น ถ่ายรูป ก็มีให้เลือกกันหลากหลาย ใครถูกใจงานไหน รีบชวนคุณแฟนหรือคุณเพื่อนไปเดินกันได้เลย : ) X’Mas Sale 2 – 10 ธ.ค. 10.30 – 21.00 น. อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 5 – 7 ลดราคากันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นเฟอนิเจอร์ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า แฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของขวัญน่ารักๆ สินค้าแฮนเมด DIY และ อาหารเครื่องดื่มอร่อยๆ มาหาของขวัญสุดพิเศษให้กับคนรอบข้างกันได้ที่งานนี้ พิเศษ! เพลิดเพลินไปกับศิลปินนักร้องชื่อดัง มาสร้างความสุข สนุกสนาน พร้อมกิจกรรมบนเวที อาทิเช่น การแสดงย้อนยุคในแต่ละภาค, การละเล่นพื้นเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย อัดแน่นRead More
-->
เทศกาลคริสต์มาส (Christmas Festival) เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ที่เน้นพิธีกรรมของศาสนาคริสต์ศาสนิกชน วันคริสต์มาสถือเป็นวันเริ่มต้น เทศกาลพระคริสตสมภพ ผู้คนหลายพันล้านทั่วโลกต่างเฉลิมฉลอง เพราะถือว่า เป็นวันที่ตรงกับวันหยุดของ ศาสนาและวัฒนธรรม และเป็นช่วงหน้าหนาวที่มีอากาศค่อนข้างเย็นสบาย ดังนั้น ประชาชนทั่วไป มักจะออกมาเดินเล่นรอบ ๆ เมือง มีการบรรเลงดนตรี ขับร้องประสานเสียง จัดเลี้ยงอาหาร แลกของขวัญ และ ประดับตกแต่งต้นคริสต์มาส สวยงาม ส่วนใหญ่มักพบได้ตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร หรือ แม้กระทั่งภายในโบสถ์ และแล้ว วันคริสต์มาสก็มาถึง เป็นอีก 1 วันที่หลาย ๆ คน รอคอย หลาย ๆ คนก็มีแพลนไปเที่ยวไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ บางคนก็เดินทางกลับบ้านไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวที่บ้าน หรือบางคน อาจจะไม่มีแพลนอะไรมากนัก เพียงแค่ เดินห้าง ช็อปปิ้ง ซื้อของขวัญ ทานอาหารกับเพื่อน ๆ กับแฟน หรือกับพี่น้อง ก็สนุกแล้ว หากใครยังนึกไม่ออกว่าจะทำกิจกรรมอะไรดีในช่วงคริสต์มาส หรืออยากไปเที่ยวที่ไหน เรามี 7Read More
-->
วันนี้Travelzeedมา “เมอร์รี่คริสต์มาส” เพื่อนๆล่วงหน้ากันครับรู้ไหมครับ ว่าธรรมเนียมของเทศกาลแห่งความอบอุ่น อย่างเทศกาลคริสต์มาส ไม่ได้มีแค่ในต่างประเทศแถบยุโรปเท่านั้น แต่ปัจจุบัน มีอยู่หลายๆ แห่งที่มีธรรมเนียมคริสต์มาสได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากๆ สำหรับวันนี้ Travelzeed เลยขอเสนอ ทั้งของขวัญที่ประเทศอื่นๆ นิยมให้กัน และธรรมเนียมที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ จะน่าสนใจแค่ไหน ตามกันมาดูได้เลยจ้า 1. เนเธอร์แลนด์(Netherlands) เด็กๆ ในเนเธอร์แลนด์จะได้รับของขวัญจากซานตาคลอสในวันที่ 5 ธันวาคม หลายๆคนอาจจะทำหน้างง เอ๊ะ วันนี้ยังไม่ใช้วันคริสต์มาสซะหน่อย ก็ถือเป็นความแตกต่างที่น่าสนใจมากๆเลยครับ โดยมีเงื่อนไขว่าหากเด็กๆ วางแครอทเอาไว้ เขาจะได้รับของขวัญจากซานต้านั่นเองครับ นอกจากนี้จะมีการจัดเล่นเกม ซึ่งมีบทกวี และปริศนาคำทาย ให้พวกเขาตีความเพื่อให้ได้รับของขวัญจากซานต้าอีกด้วย 2. ญี่ปุ่น(Japan) คริสต์มาสในญี่ปุ่นไม่ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองทางศาสนา แต่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข วันคริสต์มาสอีฟจะมีการเฉลิมฉลองมากกว่าคริสต์มาสเลยก็ว่าได้ ถือเป็นวันที่แสนโรแมนติก โดยคู่รักจะนัดพบกันและแลกเปลี่ยนของขวัญ เด็กญี่ปุ่นเองก็จะได้รับของขวัญคริสต์มาสของตัวเองซ่อนเอาไว้ใต้หมอนอีกด้วย “Merry Christmas” ของญี่ปุ่นคือ “Meri Kurisumasu” 3. รัสเซีย(Russian) ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะให้ของขวัญในวันคริสมาสต์ในประเทศรัสเซีย เพราะว่าในความเป็นจริงประเทศรัสเซียมีการเฉลิมฉลองปีใหม่ตามธรรมเนียมรัสเซียในวันที่ 6 มกราคมและวันหยุดของประเทศอีกด้วย วันนี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ มีคนไปโบสถ์และมีการช็อปปิ้ง โดยมีการเฉลิมฉลองกับสมาชิกในครอบครัวและที่บ้าน อย่างไรก็ตามคนรัสเซียก็ให้ของขวัญคริสต์มาสกับคนในประเทศอื่นๆRead More
-->
สำหรับสาวๆหลายคน การได้รูปสวยๆไว้ลงโซเชียล ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ขอให้ได้รูปสวยๆก็เป็นที่พอใจแล้ว แต่สำหรับคนวัยทำงาน หรือวัยรุ่นนักศึกษา อาจจะไม่มีช่วงเวลาในตอนกลางวัน เพื่อที่จะไปถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ กว่าจะเลิกงานหรือเลิกเรียนก็มืดค่ำแล้ว แต่สำหรับเมืองเชียงใหม่ เมืองแห่งการท่องเที่ยว ย่อมมีสถานที่สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวยามค่ำคืน และในช่วงฤดูหนาวใกล้ เทศกาลคริสต์มาส และ เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ถือเป็นช่วงที่เป็นฤดููกาล ท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ทำให้มีการจัดแต่งสถานที่ต่างๆด้วยไฟแสงสีที่ประดับประดาอยู่หลายแห่งด้วยกัน วันนี้เราจะพาไปชม 4 โลเกชั่น ที่เหมาะแก่การถ่ายรูปให้สาวๆ ยามค่ำคืนกัน เริ่มกันด้วย ห้างสรรสินค้าพรอมเมนาดา ที่ห่างจากตัวเมืองเพียงไม่กี่นาที และสำหรับ วันที่ 5-10 ธันวาคม 62 นี้ ทางห้างสรรสินค้าก้ได้จัดงาน เพลินวาน งานวัด ซึ่งจะเป็นการจำลองงานวัดแบบดั้งเดิมของไทย นำมาไว้ที่บริเวณลานกิจกรรมตึก A และ ตึก B ซึ่งได้นำเครื่องเล่นตามงานวัดแบบดั้งเดิม เช่น ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน เพิ่มสีสันจากไฟที่นำมาตกแต่งอย่างสวยงาม นอกจจากนี้ก็ยังมีกิจกรรม และร้านค้าอีกมากมาย ให้ไปสัมผัสกัน สามารถไปเที่ยวกันได้ ถัดมาใกล้ตัวเมืองอีกหน่อย และยังคงเป็นห้งสรรพสินค้าที่มีทั้งนักท่องเที่ยว รวมไปถึงคนทั่วไปใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย คือห้าง Cental Festival Chiang Mai ซึ่ง บริเวณลานกิจกรรมด้านหน้า ได้มีการนำไฟมาประดับทางเดินจนกลายเป็นอุโมงค์เล็กๆ ทุกๆปี ทำให้เกิดเป็นจุดที่สนใจแก่คนที่ไปใช้บริการห้างนี้ หลายๆคนก็แวะถ่ายรูปก่อนกลับด้วย และในปีนี้ ก็ได้มีการนำสิ่งอื่นๆมาประดับเพิ่มเติม เพื่อให้ทุกคนได้มีมุมถ่ายรูปมากขึ้นด้วย อีกย่านที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือ นิมมานเหมินทร์ บริเวณนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของเชียงใหม่ เลยก็ว่าได้ เพราะมีคนหลั่งไหลเข้ามาตลอดทั้งวันRead More
-->
ช่วงเวลาคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากของประเทศเยอรมันตามประสาประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลัก (ถึงแม้ว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่จะหันไปเลิกนับถือศาสนากันซะเยอะ) หลังจาก Halloween จบไปได้ไม่นาน กลิ่นอายของบรรยากาศแห่งเทศกาลคริสต์มาสก็จะกลับเข้ามาคืนความสดใสให้กับบรรยากาศอันน่าหดหู่ของฤดูใบไม้ร่วง ห้างร้านบ้านเรือนต่างๆจะเริ่มประดับประดาห้องหับของตัวเองด้วยเครื่องตกแต่งคริสต์มาสกันทีละเล็กละน้อยจนกว่าจะรู้ตัวอีกที เราก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยรูปปั้น ของตกแต่ง และไฟเทศกาลที่ส่องแสงระยิบระยับอย่างมีชีวิตชีวาซะแล้ว จริงๆที่ไทย (หรืออย่างน้อยก็ในกรุงเทพแถวๆสยามที่เราเคยอยู่ 555) ก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ว่าที่เยอรมันนอกจากเรื่องการตกแต่งประดับประดาต่างๆแล้ว เวลาคริสต์มาสยังเป็นเวลาที่สมาชิกในครอบครัวจะกลับมาพบหน้ากัน โดยที่ช่วงเวลาระหว่างเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่จะเป็นวันหยุดราชกาล อย่างที่คอลเลจของเราก็หยุดตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม ถึงวันที่ 4 มกราคมแน่ะ แล้วในการพบหน้ากันครั้งนี้ก็แน่นอนว่าต้องมีการให้ของขวัญกันตามธรรมเนียม ช่วงก่อนจะถึงวันคริสต์มาสห้างร้านก็จะคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาเลือกซื้อของเพื่อเป็นของขวัญให้เพื่อนๆและสมาชิกในครอบครัว ที่เยอรมัน บางครอบครัวมีวิธีที่ทำให้เด็กๆตื่นเต้นใจจดใจจ่อรอคอยให้วันคริสต์มาสมาถึงไวๆมากขึ้นไปอีก โดยการแขวนปฎิทิน Adventskalender ไว้ ซึ่งปฎิทิน Adventskalender แบบดั้งเดิมนี้ก็เหมือนปฎิทินทั่วไป แต่ว่าจะมีวันที่ต้้งแต่ 1 ธันวาคมถึง 24 ธันวาคมเท่านั้น และแต่ละช่องวันที่บนปฎิทินก็จะมีประตูเล็กๆอยู่ แต่ละวันๆเด็กๆก็จะเปิดประตูเล็กๆนั้นออกตามวันที่นั้นๆ ในแต่ละช่องประตูก็จะมีของขวัญเล็กๆหรือขนมหวานอยู่ เด็กๆก็จะได้ของขวัญเล็กๆน้อยๆไปวันละชื้นไปเรื่อยๆจนถึงวันที่ 24 ธันวาคม และนอกจากจะเป็นในรูปแบบปฎิทินธรรมดาแล้ว ยังมีไอเดีย Adventskalender ในรูปแบบอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย
-->
JINGLE BELLS, JINGLE BELLS, JINGLE ALL THE WAY WE WISH YOU A MERRY CHRISTMAS ………. AND A HAPPY NEW YEAR ได้ยินเพลงนี้แล้วคุณนึกถึงเทศกาลอะไรกันค่ะ แน่นอนหากได้ยินเพลงนี้พร้อมมีลมหนาวพัดมาล่ะก็แสดงว่าเราเข้าสู่เทศกาล Christmas กันแล้วล่ะค่ะ หลายท่านอาจจะทราบประวัติของวันคริสต์มาสกันมาบ้างแล้วแต่วันนี้ 65blogs จะพาทุกท่านมารู้จักกับวันคริสต์มาสนี้ให้มากขึ้นทั้งในเรื่องของประวัติวันคริสต์มาส ความเป็นมาขององค์ประกอบต่างๆในวันตริสต์มาส ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นมาชมไปพร้อมๆกันเลยค่ะ CHRISTMAS DAY Christmas มาจากภาษาอังกฤษโบราณคือคำว่า Christes Maesse แปลว่า บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า โดยพบคำนี้ครั้งแรกในเอกสารโบราณในปี ค.ศ.1038 ภายหลังแปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas ซึ่งวันคริสต์มาส คือ การฉลองวันประสูติของพระเยซูผู้เป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลก ตามหลักฐานในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลบันทึกไว้ว่า พระเยซูประสูติในสมัยจักรพรรดิซีซ่าร์ ออกัสตัส แห่งโรมัน อย่างไรก็ตามในพระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร แต่สาเหตุที่ใช้วันที่ 25 ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันประสูติของพระเยซูนั้น นักประวัติศาสตร์วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิเอาเรเลียนแห่งโรมันRead More
-->
“santa claus is coming to town” และแล้วเทศกาลประจำฤดูหนาว แต่กลับทำให้ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งหัวใจที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ไหน ๆ ต่างก็ประดับประดาด้วยแสงไฟระยิบระยับ ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าไปเที่ยวที่ไหนดี ลองมาดู 5 พิกัดที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ รับรองว่าคริสต์มาสปีนี้ คุณมีตัวเลือกเส้นทางการเดินทางดี ๆ ที่จะประทับใจไม่รู้ลืมเลยทีเดียว 1. wOrld Of Happiness @centrawOrld ฉลองเทศกาลปลายปีสุดอลังกาลด้วยธีม wOrld Of happiness ที่นำเสนอคาแรคเตอร์อิโมติคอนสุดน่ารักระดับโลกอย่าง Smiley มาสร้างรอยยิ้มให้ช่วงเวลาคริสต์มาสนี้ ส่งท้ายยาวไปจนถึงปีใหม่ ตื่นตาตื่นใจไปกับ Swarovski Christmas Merry Go Round เครื่องเล่นม้าหมุนดิจิตอลสุดอลังการส่องประกาบระยิบระยับ ประดับประดาด้วยคริสตัลจากสวารอฟสกี้มากกว่า 4 ล้านเม็ด สามารถไปถ่ายรูปกันได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 – 7 มกราคม 2562 2. WinterRead More
-->
‘คริสมาสต์ (Christmas)’ เทศกาลที่จะพาคุณอบอุ่นหัวใจไปกับความโรแมนติกปนสนุก มีทั้งแสงสี และบรรยากาศสนุกสนานที่จะชวนให้คุณหัวใจพองโตไปกับเทศกาลนี้ คำว่า “คริสต์มาส“ เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า “บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า” เข้าสู่ช่วงเดือนธันวาคมทีไรจะต้องนึกถึงเทศกาลอันแสนอบอุ่น และโรแมนติกที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศสนุกสนาน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็จะเห็น ไฟหลากสี ต้นคริสมาสต์ อุปกรณ์ตกแต่งนานาชนิด กระทั่งเสียงเพลงคลอไปตามทางเดิน ไม่ว่าจะเป็นที่ห้าง ร้านอาหาร วิทยุ ชวนให้เราหวนนึกถึงวัยเด็กแล้วก็หยุดอมยิ้มกับบบรรยากาศน่ารักๆแบบนี้แทบไม่ไหว ไม่แปลกใจที่มีหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอเทศกาลนี้กันอย่างใจจดใจจ่อ ประเทศไทยอาจจะไม่ได้อินกับประเทศนี้เท่าไหร่นัก เราเลยอยากหาบรรยากาศของต่างประเทศที่คิดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่ง Bucketlist ที่ต้องรีบจดกันเอาไว้เลย เพราะรับรองว่าฟินแน่นอน 1. กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เวียนนาเป็นหนึ่งสถานที่ที่ดีที่สุดในทวีปยุโรป เมื่ออยากมาเยี่ยมชมวันคริสมาสต์ โดยเริ่มตั้งแต่ปลายปีพฤศจิกายน สถานที่ต่างๆในกรุงเวียนนาจะถูกเนรมิตให้มีการตกแต่งไปอุปกรณ์วันคริสมาสต์ รวมถึงเปลี่ยนจตุรัส และสถานที่ท่องเที่ยวให้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งเพื่อเตรียมความพร้อมในการฉลองเทศกาลวันคริสต์มาส ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสุข โดยตลาดคริสมาสต์มีอยู่หลายทีที่ควรไปเสพบรรยากาศดีๆ แถมยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เหมาะกับคู่รักที่ชวนกันไปเดินเล่นเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศตึกรางบ้านช่องที่สุดแสนจะโรแมนติก แนะนำให้ไปที่ตลาด Rathausplatz เรียกได้ว่าเป็นสถานที่แนะนำที่ควรไป เพราะจัดเป็นหนึ่งในตลาดคริสมาสต์ที่สวยที่สุดในยุโรปเชียวนะ ซึ่งเป็นตลาดคริสมาสต์แบบดั้งเดิม เต็มไปด้วยแผงร้านค้าหลากหลายชนิดให้เลือกสรรมากกว่า 100 ร้านค้า สินค้าจะเป็นพวกของตกแต่งต้นคริสมาสต์ ของขวัญแฮนเมด อาหาร และขนมลูกกวาดหลากสี ท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเย็นของเดือนธันวาคม 2. Lapland, Finland เป็นอีกดินแดนในฝันของใครหลายคน ที่ถูกจดเอาไว้เป็นRead More
-->
สวัสดีค่ะน้องๆ นักอ่านในเว็บเด็กดีทุกคน ^^ เริ่มเข้าสู่เดือนธันวาคมอย่างนี้พี่หวานก็ไม่พลาดที่จะหาเรื่องน่าสนใจเกี่ยกับเทศกาลต่างๆ ที่ต่อคิวในเดือนนี้มาฝาก อีกไม่นานเทศกาลคริสต์มาสก็จะมาถึง นี่เป็นเทศกาลที่พี่หวานชอบมากๆ เลยค่ะ ในตอนเเรกคิดว่าจะนำเสนอเทศกาลคริสต์มาสของหลายๆ ประเทศเเต่คงดูจำเจเกินไป ก็เลยเลือกเจาะจงที่เทศกาลคริสต์มาสของเกาหลีไปเลยค่ะ เพราะพี่หวานเองก็พอจะเคยได้ยินเรื่องราวเเละได้เรียนรู้ความเชื่อของคนเกาหลีมาบ้าง วันนี้ก็เลยอยากจะลองเขียนเรื่อง รวมมุมมองความเชื่อที่คนเกาหลีมีต่อเทศกาลคริสต์มาส ก่อนอื่นต้องเกริ่นเลยว่าสาเหตุที่เทศกาลคริสต์มาสเป็นเทศกาลที่คนเกาหลีให้ความสำคัญอาจจะเป็นผลมาจากการที่ประเทศเกาหลีมีคนนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุด จึงเล็งเห็นความสำคัญในวันประสูติของพระเยซูเเละมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตามมาด้วย เเน่นอนว่าแทบทุกประเทศทั่วโลกรับรู้ถึงที่มาของวันคริสต์มาสเเละมีความเชื่อเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เเต่ถึงอย่างนั้นเเล้วก็ใช่ว่าคนเกาหลีจะไม่มีความคิดความเชื่อในเเบบของตัวเองนะคะ วันนี้พี่หวานก็เลยสรุปความคิดความเชื่อของคนเกาหลีที่มีต่อเทศกาลคริสต์มาสมาให้แล้วค่ะ สมัยก่อนคนเกาหลีจะไม่ออกจากบ้านในวันคริสต์มาส สำหรับข้อเเรกก็คงสร้างความแปลกใจให้หลายคนได้เเล้วใช่มั้ยคะ เพราะปัจจุบันเทศกาลคริสต์มาสของเกาหลีก็ติดอันดับเป็นที่พูดถึงอยู่บ้างในเรื่องของบรรยากาศที่สวยงามน่าไปท่องเที่ยว ประดับด้วยแสงไฟสว่างไสว รวมไปถึงการเปิดเพลงประจำวันคริสต์มาส ที่ทำให้บ้านเมืองไม่เงียบเหงาด้วย เเต่เมื่อลองหาข้อมูลพี่หวานก็ได้พบว่าในสมัยก่อนเมื่อนานมาเเล้วมากๆๆ เรียกได้ว่ายังเป็นเกาหลียุคเก่าอยู่เลยค่ะ คนเกาหลีไม่ได้มีการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสกันใหญ่โตอย่างนี้ ทุกถนนหนทางจะมีเเต่ความเงียบเชียบผู้คนจะอยู่ฉลองเเละระลึกถึงพระเยซูในบ้านของตนเอง เเต่ต่อมาเมื่อยุคสมัยเริ่มเปลี่ยน ความเจริญของวัฒนธรรมจากต่างชาติเข้ามามีอิทธิพล คนเกาหลีจึงตระหนักว่าวันคริสต์มาสนั้นมีเเค่วันเดียวไม่ควรที่จะระลึกถึงพระเยซูอยู่เงียบๆ ในบ้านของตนเองเท่านั้น จึงเริ่มมีการรวมตัวพบปะผู้คนฉลองกันอย่างรื่นเริงเเละที่สำคัญก็คือผู้คนนำวัฒนธรรมการดื่มเพื่อเฉลิมฉลองมาใช้ในวันคริสต์มาสนี้ด้วย เเละหลังจากนั้นมาคนเกาหลีก็เริ่มให้ความสำคัญเเละยกให้วันคริสต์มาสเป็นอีกวันหนึ่งในปฏิทินที่สำคัญไปโดยปริยาย เเต่สำหรับเรื่องที่สมัยก่อนคนเกาหลีไม่ออกจากบ้านตามเทศกาลนี่พี่หวานไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะเห็นอยู่บ่อยๆ ว่าเวลามีเทศกาลสำคัญเช่นวันหยุดต่างๆ ร้านค้าเเทบทั้งหมดก็จะปิดเพื่อฉลองเเละพักผ่อน อย่างวันชูซอกนั่นเงียบกันทั้งเมืองจริงๆ ค่ะ ใครไปเที่ยวช่วงนั้นต้องฝากท้องไว้ที่มินิมาร์ทกันเลยทีเดียว ถ้าคบกันตั้งเเต่วันที่ 17 กันยายน จะมาครบ 100 วันในวันคริสต์มาสพอดี เป็นอีกข้อที่เหมือนจะดูไม่มีอะไร เเต่บอกเลยค่ะว่าเกาหลีเป็นประเทศเเห่งคู่รักที่ให้ความสำคัญอย่างมากในการนับวันเเละจดจำวันครบรอบต่างๆ ไม่ใช่เเค่ผู้หญิงเท่านั้นเเต่เหล่าคุณผู้ชายก็ให้ความสำคัญกับวันเหล่านี้ด้วยเช่นกัน(เพราะถ้าไม่สนใจคงโดนแฟนงอนเอาได้) พี่หวานจึงเห็นว่าคนเกาหลีนับเอาวันที่ 17 กันยายนเป็นวันบอกรักเเละตกลงคบกัน เพื่อที่จะเริ่มนับ 1 เเละมาครบรอบRead More
-->
Posts navigation