Merry Christmas 15 สถานที่เที่ยววันคริสต์มาส คริสต์มาสนี้เที่ยวไหนดีนะ

เข้าใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลคริสต์มาส อีกหนึ่งเทศกาลที่คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญเราจึงขอแนะนำ 15 สถานที่ท่องเที่ยวต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสที่ต้องสัมผัสสักครั้งในชีวิต คริสต์มาสเที่ยวไหนดี ?

1.Lapland (Finland)

พิกัด: Lapland

คริสต์มาสเที่ยวไหนดี ? ถ้าพูดถึงเทศกาลคริสต์มาสต้องนึกถึงที่นี่เลยกับประเทศฟินแลนด์ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์มีความเชื่อกันว่ามี ซานตาคลอส ตัวจริงอาศัยอยู่ที่เมือง Rovaniemi ใน แลปแลนด์ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแหล่งดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวให้เดินไปพบเขาและยังสามารถช่วยแจกของในเทศกาลคริสต์มาสหรืออาจจะอยากทำให้ความฝันในวัยเยาว์เป็นจริงขึ้นมาก็ได้นั่นก็คือไปขอของขวัญจากคุณลุงซานตาคลอส ที่นี่จะมีผู้คนมากมายต่างเฝ้ารอการมาของซานต้าอยู่หน้าบ้านเป็นจำนวนมากในวันเทศกาล หรืออีกทางเลือกหนึ่งให้ไปที่ เมือง Kuusamo เป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับคนที่ไม่ชอบเบียดเสียดผู้คน และต้องการสัมผัสกับความหนาวยะเยือกของหิมะแต่กลับอบอุ่นด้วยเตาผิงอันน้อยในค่ำคืนแห่งความสุข

2. Nuremberg (Germany)

พิกัด: Nuremberg

ในเทศกาลคริสมาสต์ มีอยู่เมืองนึงที่ถูกขานนามว่าเป็นเมืองคริสมาสต์หมายเลข 1 แห่งประเทศเยอรมนีนั้นคือ นูเรมเบิร์ก ซึ่งทุกปีผู้คนจำนวนมากพากันออกมาจับจ่ายซื้อของ เพื่อเฉลิมฉลอง ไฮไลท์ คือตลาดคริสต์มาส ที่หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นอบเชย เหล้าองุ่น อัลมอนด์คั่ว และไส้กรอกสูตรเฉพาะหรือจะเป็นบ้าน Volfshera ซึ่งจะจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ของวันคริสต์มาส โดยแต่ละปีจะนำเสนอเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับเทศกาลเฉลิมฉลองของคริสต์มาส เหมาะสำหรับใครที่ไม่ชอบความพลุกพล่านก็สามารถมาหาความสงบได้ หรือจะเป็นที่ Dresden ก็สวยไม่แพ้กันที่นี่รวมความแตกต่างของตลาดคริสมาสต์ มาเข้าด้วยกันมีทั้งเสียงดนตรีและเสียงการเฉลิมฉลองทำให้รู้สึกเข้าถึงบรรยากาศเทศกาลคริสมาสต์

3. Vienna (Austria)

พิกัด: Vienna

เวียนนาเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในยุโรปสำหรับเทศกาลคริสมาสต์ ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เป็นเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในจัตุรัสใจกลางกรุงเวียนนาจะกลายเป็นตลาดคริสมาสต์ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคักและมีกลิ่นอายของความดั้งเดิม เทศกาลคริสมาสต์ในกรุงเวียนนาเปรียบเสมือนเวทมนต์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในหนึ่งปี มีการตกแต่งเต็มไปด้วยต้นเคริสมาสต์ ของขวัญคริสมาสต์ เครื่องดื่ม ขนม  ครัวซอง และยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่ชวนให้เด็กสนุกสนาน หากยังไม่รู้ว่าคริสต์มาสเที่ยวไหนดี ที่เวียนนาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรมาเยือนด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต

4. Rome (Italy)

พิกัด: Rome

กรุงโรมคงไม่มีใครไม่รู้จักที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี ที่มีความโดดเด่นด้านประวิติศาสตร์แต่ยังมีอีกสีสันนึงเป็นสีสันแห่งคริสต์มาสจึงกลายเป็นความสวยงามของนานาต้นไม้ อย่าง ต้นส้ม ไซปรัส และปาล์ม แน่นอนว่าประเทศอิตาลีเป็นประเทศที่คุ้นเคยกับหิมะกันแทบทุกฤดูกาล ทำให้คนกรุงโรมไม่ตื่นเต้นกับหิมะ แต่ครึกครื้นกับสีสันพันธุ์ไม้เพื่อเฉลิมฉลองวันสุดพิเศษในเทศกาลคริสต์มาส ทั่วเมืองจะอบอวลด้วยเทศกาลขนมอันหลากหลาย ต้นคริสต์มาสยักษ์ใจกลางเมืองที่จะมอบให้นครรัฐวาติกันนั้นก็ได้รับของขวัญประดับประดาจากนานาประเทศ ยิ่งทำให้เทศกาลคริสต์มาสในกรุงโรมกลายเป็นปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

5. London (English)

พิกัด: London

กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายของเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวต้อนรับเทศการลคริสต์มาส เป็นเมืองที่สามารถพบกับซานตาครอสได้ทุกสถานที่ มีการประดับประดาไฟสวยงาม มีต้นคริสต์มาสเกือบทุกสถานที่สำคัญในกรุงลอนดอนไม่ว่าจะเป็น Oxford street, Regent Street, Mayfair, Harrods ซึ่งไฟเริ่มเปิดตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน หรือจะไปเดินชมไฟที่ London eye ลากยาวผ่าน Southbank ไปถึง Tate modern ข้ามไป St. Paul แถวๆ southbank จะมี Chrismas Market ให้ช๊อปปิ้งกัน หรือจะ Covent Garden ก็เป็นทางเลือกนึง และอย่าลืมไปเดินเล่น Winter Wonderland ที่ Hyde Park มีบรรยากาศอากาศเย็นๆ พร้อมดื่ม Mulled wine แล้วไปเล่น ice skating ก็ทำให้คุณรู้สึกเข้าเทศกาลคริสต์มาสกันแบบฟินๆ คริสต์มาสไม่รู้เที่ยวไหนดีลอนดอนก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ทัวร์ครับแนะนำ !

6. ICONSIAM (Thailand)

พิกัด: ICONSIAM

คริสต์มาส เที่ยวไหนดี กลับมาที่บ้านเรากันบ้างอย่าง ICONSIAM ที่เที่ยวแห่งใหม่ ตั้งอยู่ถนนเจริญนคร กรุงเทพ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทาง ICONSIAM จัดงาน “ICONSIAM Presents Bangkok Illumination 2019” มหัศจรรย์ประดับประดาแสงไฟและขบวนต้นคริสต์มาสเอกลักษณ์ไทยยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมเฉลิมฉลองบรรยากาศแห่งความสุขต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่ยิ่งใหญ่ตระการตา
อีกทั้งด้านในเราจะได้พบกับขบวนต้นคริสต์มาสที่ยาวที่สุด ความยาวกว่า 400 เมตร ตกแต่งประดับไฟสุดตระการตา  แน่นอนว่าอยากได้มุมสวยทางเราแนะนำว่าให้ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 3 และ 4 บริเวณร้าน True Branding Shop บอกเลยว่าจากมุมนี้ จะสามารถมองเห็นไฟ และโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างสวยงาม ใครๆ ที่ไม่อยากเดินทางไปยังต่างประเทศ ก็ขอแนะนำ ICONSIAM ก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่จะมาเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ถึงจะไม่ได้มีหิมะเหมือนใครเขา แต่แน่นอนว่าความอลังการเราไม่แพ้ที่ไหนๆ

7. Granada (Spain)

พิกัด: Granada

สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในช่วงคริสต์มาส ของประเทศสเปน คงหนีไม่พ้นเมืองกรานาดา ที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างพากันมาสัมผัสความงดงามของหิมะที่ปกคลุมยอดเขา Sierra Nevada ซึ่งสถานที่นี้ถือเป็นสุดยอดของการเล่นสกี นอกจากนี้ยังมีขบวนพาเหรดสุดแฟนตาซี และอีกสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของเมืองกรานาดา คือ พระราชวัง Alhambra ที่มีความงดงามคงความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศสเปน ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเซียรา เนวาดา ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของสกีแล้วล่ะก็เราขอแนะนำเมืองนี้เลย 

8. New York (USA)

พิกัด: New York

ใครๆ ก็คงอยากไป นิวยอร์ค ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ที่เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งที่ไม่มีสิ้นสุดอย่าง Fifth Avenue พร้อมกับบรรยากาศสีสันในช่วงเทศกาลกับต้นคริสต์มาสจำนวนมากภายในเมืองหรือจะเป็นการไปเล่นสกีน้ำแข็ง และสิ่งที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างเลยก็คือชมสะพานบรูคลิน พร้อมฟังเพลงประสานเสียงที่ ไทม์แสควร์ และเดินเล่นรอบเมืองที่ประดับประดาด้วยแสงสี สัญลักษณ์แห่งเทศกาลคริสต์มาสกิจกรรมแน่นขนาดนี้แน่นอนว่าคงไม่อยากพลาดเทศกาลคริสต์มาสที่นิวยอร์คกันล่ะสิ

9. Amsterdam (Netherlands)

พิกัด: Amsterdam

เมืองอัมสเตอร์ดัม ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์รวมแห่งร้านกาแฟชื่อดัง มีความคลาสสิกผสมผสานระหว่างตรอกแคบและคลองอันแปลกตา ทำให้ได้บรรยากาศแบบ City of Angels ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสมีการประดับประดาไฟสว่างไสวทั่วเมือง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ ซานตาคลอสต้นแบบ ซึ่งเป็นนักบุญแห่งฮอลแลนด์ และใครอยากจะขอพรให้สมปราถนา แนะนำให้มุ่งตรงไปที่ พิพิธภัณฑ์ Amstelkring หรือ โบสถ์แห่งความลับ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่าน Red Light

10. Prague (Czech Republic)

พิกัด: Prague

กรุงปราก คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ว่ากันว่าในช่วงที่อบอุ่นที่สุดของฤดูหนาว ปราก ก็ยังคงมีหิมะตก แน่นอนว่าในยามค่ำคืนแสงของไฟที่ประดับอยู่ผสมผสานเข้ากับหิมะสีขาวให้ความสวยงามและบรรยากาศที่หนาว เหน็บซึ่งทุกแห่งหนจะมีเหล้าองุ่นขายเพื่อคลายอาการสั่น ผู้คนที่นี่นิยมประดับประดาต้นไม้ไว้ในถัง และร่วมกันบริจาคอุปกรณ์ตกแต่งให้กลายเป็น Bethlehem ดินแดนแห่งพระประสูติกาลขององค์พระเยซูคริสต์

11. Oslo  (Norway)

พิกัด: Oslo

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ใครที่ชื่นชอบหิมะคงหนีไม่พ้น ประเทศนอร์เวย์ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ประเทศที่มีหิมะปกคลุมมากที่สุดในโลกถ้าอยากเห็นกับตาต้องไปสัมผัสและกระโดดสกีที่ Holmenkollen บนเขาออสโลสักครั้ง สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินไป หรือใครที่ชอบความคลาสสิกสามารถเดินทางด้วยกวางลากเลื่อนเป็นกลิ่นอายแบบคริสต์มาสจ๋าๆ และหวังว่าคงได้เจอกับซานตาครอสระหว่างทาง

12. Edinburgh (Scotland)

พิกัด: Edinburgh

เมืองเอดินบะระ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งย้อนยุค แนะนำว่าใครที่ชื่นชอบให้มาฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่เมืองเอดินบะระ เพื่อเข้าสู่ยุคกลาง ยุคแห่งประเพณีและวัฒนธรรมการเป่าปี่ ขับขานเพลงคริสต์มาสแบบดั้งเดิม พร้อมเพลิดเพลินกับเทศกาลอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงประสานเสียง โชว์คาบาเร่ต์ ขบวนแห่ยานไวกิ้ง และตระการตากับพลุสุดอลังการ ทำให้เมืองเอดินบะระ เป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

13. Paris (France)

พิกัด: Paris

แน่นอนว่าไม่มีทีไหนที่สามารถจะสู้ความเก๋ เลิศ หรู ไปกว่ากรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสได้อีกแล้ว ยิ่งช่วงฤดูหนาวของทุกปีก็จะมีการประดับประดาไฟตามสถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น หอคอยไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์หรือตามร้านค้าต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดเลยคือต้นคริสต์มาสที่มีความสูง 27 เมตร ตั้งอยู่ ลาฟาแยตต์แกลอรี่ ซึ่งเป็นเป็นศูนย์การค้าชื่อดังของกรุงปารีส เอาล่ะได้เวลาสวมโค้ท ใส่บูทสูงแล้วไปสนุกกันแล้ว!

14. Stockholm (Sweden)

พิกัด: Stockholm

กรุงสตอกโฮลม์ ประเทศสวีเดน ตั้งอยู่แถบสแกนดิเนเวีย เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมพื้นเมืองและวัฒนธรรมร่วมสมัย รวมไปถึงเทศกาลคริสต์มาส กิจกรรมประจำปีนั่นก็คือช้อปปิ้งตามตลาดคริสต์มาสที่ตกแต่งอย่างพลิ้วไหวไปตามเทศกาล แน่นอนว่าบรรยากาศที่กรุงสตอกโฮลม์ มีความหนาวเหน็บ เมื่อเดินทางมาถึงขอแนะนำให้คุณนั่งจิบไวน์พร้อมขนมรสขิงอันเลื่องชื่อของที่นี่ซะก่อน

15. Tokyo (Japan)

พิกัด: Tokyo

มาถึงประเทศญี่ปุ่น ที่ขาดไม่ได้เลยคือความโดดเด่นเรื่องการจัดไฟที่สวยงามอย่างมากไม่ว่าจะเป็น Caretta Shiodome ที่จัดมาต่อเนื่องเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว, ถนน Keyakizaka, Tokyo Disneyland, และอีกหลากสถานที่ทั่วญี่ปุ่น หรือจะเป็น Nabana no Sato Winter Illumination หนึ่งในเทศกาลแสงสีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีตลาดคริสต์มาส มีกลิ่นอายแบบยุโรป ไม่ว่าจะสถาปัตยกรรมของตัวร้านค้า ประเภทของสินค้าที่วางจำหน่าย รวมถึงศิลปะการตกแต่ง ตลาดคริสมาสต์ที่มีชื่อเสียงมากคือ “Tokyo Christmas Market” จัดขึ้นที่สวน Hibiya Park แน่นอนว่าดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากสำหรับเทศกาลคริสต์มาสในประเทศญี่ปุ่น

15 ที่เที่ยวในเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆ ใครมีแพลนไปไหนกันบ้างแล้วชูมือหน่อย วันหยุดยาวทั้งทีไม่เที่ยวล่ะก็เสียดายแย่ แต่ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะไปไหนดีมาจดลิสต์ได้เลยเพราะเรามีสถานที่สวยๆ มาแนะนำเพื่อนๆ แน่นอน! ขอให้เทศกาลคริสต์มาสนี้มีความสุขกันทุกคนนะครับ

-->