7 เมืองในฝันรอบโลก ของคนรักเทศกาลคริสต์มาส
อีกวันหนึ่งที่หลายคนรอคอยกันเป็นประจำทุกปีในเดือนธันวาคม คงหนีไม่พ้นวันคริสต์มาส ยิ่งใกล้เทศกาลนี้เข้ามาเท่าไหร่ สำหรับคนที่ชื่นชอบในบรรยากาศของเทศกาลอันอบอุ่นนี้ เราได้คัดเลือกสถานที่สุดพิเศษเพื่อเป็นไอเดียไปฉลองเทศกาลคริสต์มาสในฝันนี้พร้อมๆ กันค่ะ
1. นิวยอร์ค (New York), ประเทศสหรัฐอเมริกา
เริ่มต้นด้วยการฉลองคริสต์มาสในเมืองหลวงของโลก ทั้งมหานครนิวยอร์กจะเต็มไปด้วยการประดับตกแต่งด้วยสีเขียวสีแดง ต้นคริสต์มาสขนาดมหึมาและการประดับประดาอย่างสวยงาม ผู้คนจะหลั่งไหลกันมายังเทศกาลแห่งปีที่รอกกี้เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์ (Rockefeller Centre) ที่มีลานสเก็ตน้ำแข็งอยู่โดยรอบ เป็นประเพณีที่ทำต่องเนื่องมายาวนานกว่า 80 ปี และพิกัดสำคัญที่ต้องไปเยือนก็คือเขตแมนฮัตตัน (Manhattan) ที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของเมืองในช่วงคริสต์มาสเลย
2. แลปแลนด์ ( Lapland), ประเทศฟินแลนด์
ณ ขั้วโลกเหนือ ดินแดนมหัศจรรย์ที่เชื่อกันว่าเป็นบ้านของคุณลุงซานต้าใจดีและชาวเอลฟ์ (Elf) ฉลองคริสต์มาสกันให้ได้บรรยากาศเต็มๆ ก็ต้องไปให้ถึงถิ่นของเทศกาลคริสต์มาส ที่นี่เป็นศูนย์กลางของคริสต์มาส เด็กๆ จะสนุกกับการทำคุกกี้ ขนมปังขิงกับซานตาคลอส มีโรงเรียนเอลฟ์ ที่ทำให้เราได้สัมผัสคุณลุงซานต้ากันอย่างใกล้ชิดด้วยกันที่หมู่บ้านซานตาคลอส (Santa Clause Village)
3. ควิเบก (Quebec), ประเทศแคนาดา
เมืองที่ดีที่สุดเมืองหนึ่งในการไปร้องเพลงคริสต์มาสกลางถนนกับฝูงชนต้องที่นี่เลย ควิเบกได้รับอิทธิพลมาจากชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในเมืองกว่าครึ่ง ถือเป็นลิตเติ้ลยุโรปในแถบอเมริกาเหนือเลยก็ว่าได้ วัสดุตกแต่งของที่นี่ทุกอย่างยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะทำมาจากของรีไซเคิล และเต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายชนิด เป็นอีกเมืองที่ไม่ควรพลาดในการฉลองคริสต์มาส รับประกันความฟินได้เลยค่ะ
4. เนือร์นแบร์ก (Nuremberg), ประเทศเยอรมัน
ตื่นตาตื่นใจกับตลาดคริสต์มาสที่มีร้านค้าเกือบสองร้อยร้าน ที่เต็มไปด้วยสินค้าแฮนด์เมดแบบดั้งเดิม รวมไปถึงของเล่นที่เป็นเป็นของพิเศษประจำเทศกาลนี้เท่านั้น และยังมีร้านขนมและร้านอาหารประจำเทศกาลที่หนึ่งปีจะได้ชิมแค่ครั้งเดียว ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้ เชิญชวนให้หลงไหลไปกับเสน่ห์ของบรรยากาศคริสต์มาสอันเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังแห่งนี้
5. โตเกียว (Tokyo), ประเทศญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นยังคงเป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าไปเที่ยวในช่วงคริสต์มาส ซึ่งทั่วกรุงโตเกียวจะมีการประดับประดาไฟอย่างสวยงาม และยังมีการประดับต้นคริสต์มาสแบบเฉพาะของญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้คู่รักต่างๆ จะจูงมือกันไปชมทะเลดวงดาวจากไฟประดับนับล้านดวงกันที่สวนแห่งดวงดาว (Starlight Garden) หนุ่มสาวคู่รักจะมีความสุขมากเป็นพิเศษ เพราะเทศกาลคริสต์มาสนี้เป็นประหนึ่งวาเลนไทน์ปลายปีในฤดูที่โรแมนติกที่สุดของชาวญี่ปุ่นก็ว่าได้
6. เรคาวิก (Reykjavik), ประเทศไอซ์แลนด์
ช่วงเวลานี้จะมีการจำลองเมืองทั้งเมืองให้เป็นเมืองเทพนิยาย และมีหมู่บ้านคริสต์มาส ซึ่งจะเปิดเฉพาะช่วงวันเสาร์อาทิตย์ตลอดเดือนธันวาคม พร้อมทั้งตลาดคริสต์มาสที่เรียงรายด้วยกระท่อมเล็กๆ สวยงาม ให้ผู้คนสามารถเข้าไปเลือกซื้อของขวัญ ของตกแต่ง และของกินเล่น เพื่อใช้ในวันคริสต์มาส นอกจากนี้ในตัวเมืองยังเต็มไปด้วยหิมะ และแสงสีจากเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย
7. อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam), ประเทศเนเธอร์แลนด์
ปิดท้ายกันด้วยเมืองที่เป็นบ้านเกิดของเซนต์นิโคลัส (St. Nicholas) หรือซานตาคลอสนั่นเอง โดยในทุกปีจะมีขบวนพาเหรดซานตาคลอสเพื่อระลึกถึงนักบุญขวัญใจเด็กๆทั่วโลกท่านนี้ เทศกาลไฟประดับ (Light Festival) ที่จะจัดขึ้น ณ สะพานหลักของเมืองเป็นประจำทุกปี รวมไปถึงการประกวดศิลปะการจัดไฟให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมไปกับความงดงามนี้อย่างไม่รู้คลาย
-->