6 เมืองในฝัน ที่คนรัก ‘เทศกาลคริสต์มาส’ ต้องฟิน
- ‘คริสมาสต์ (Christmas)’ เทศกาลที่จะพาคุณอบอุ่นหัวใจไปกับความโรแมนติกปนสนุก มีทั้งแสงสี และบรรยากาศสนุกสนานที่จะชวนให้คุณหัวใจพองโตไปกับเทศกาลนี้
- คำว่า “คริสต์มาส“ เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า “บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า”
เข้าสู่ช่วงเดือนธันวาคมทีไรจะต้องนึกถึงเทศกาลอันแสนอบอุ่น และโรแมนติกที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศสนุกสนาน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็จะเห็น ไฟหลากสี ต้นคริสมาสต์ อุปกรณ์ตกแต่งนานาชนิด กระทั่งเสียงเพลงคลอไปตามทางเดิน ไม่ว่าจะเป็นที่ห้าง ร้านอาหาร วิทยุ ชวนให้เราหวนนึกถึงวัยเด็กแล้วก็หยุดอมยิ้มกับบบรรยากาศน่ารักๆแบบนี้แทบไม่ไหว ไม่แปลกใจที่มีหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอเทศกาลนี้กันอย่างใจจดใจจ่อ ประเทศไทยอาจจะไม่ได้อินกับประเทศนี้เท่าไหร่นัก เราเลยอยากหาบรรยากาศของต่างประเทศที่คิดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่ง Bucketlist ที่ต้องรีบจดกันเอาไว้เลย เพราะรับรองว่าฟินแน่นอน
1. กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
เวียนนาเป็นหนึ่งสถานที่ที่ดีที่สุดในทวีปยุโรป เมื่ออยากมาเยี่ยมชมวันคริสมาสต์ โดยเริ่มตั้งแต่ปลายปีพฤศจิกายน สถานที่ต่างๆในกรุงเวียนนาจะถูกเนรมิตให้มีการตกแต่งไปอุปกรณ์วันคริสมาสต์ รวมถึงเปลี่ยนจตุรัส และสถานที่ท่องเที่ยวให้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งเพื่อเตรียมความพร้อมในการฉลองเทศกาลวันคริสต์มาส ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสุข โดยตลาดคริสมาสต์มีอยู่หลายทีที่ควรไปเสพบรรยากาศดีๆ แถมยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เหมาะกับคู่รักที่ชวนกันไปเดินเล่นเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศตึกรางบ้านช่องที่สุดแสนจะโรแมนติก แนะนำให้ไปที่ตลาด Rathausplatz เรียกได้ว่าเป็นสถานที่แนะนำที่ควรไป เพราะจัดเป็นหนึ่งในตลาดคริสมาสต์ที่สวยที่สุดในยุโรปเชียวนะ ซึ่งเป็นตลาดคริสมาสต์แบบดั้งเดิม เต็มไปด้วยแผงร้านค้าหลากหลายชนิดให้เลือกสรรมากกว่า 100 ร้านค้า สินค้าจะเป็นพวกของตกแต่งต้นคริสมาสต์ ของขวัญแฮนเมด อาหาร และขนมลูกกวาดหลากสี ท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเย็นของเดือนธันวาคม
2. Lapland, Finland
เป็นอีกดินแดนในฝันของใครหลายคน ที่ถูกจดเอาไว้เป็น Bucket list กันเลยทีเดียว! แต่เพิ่มความฟินไปอีกหนึ่งสเต็ปคือการมาเยือนที่นี่ในวันคริสมาสต์ เพราะที่นี่ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่เชื่อกันว่า ซานตาคลอส ตัวจริงอาศัยอยู่ที่เมือง Rovaniemi ใน Lapland โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่สามารถมาช่วยกันตระเตรียมของขวัญสำหรับแจกในเทศกาลคริสมาสต์ เรียกได้ว่าเป็นการเติมเต็มความฝันวัยเด็กของใครหลายคนได้ดีทีเดียว ซานตาคลอสที่เมืองนี้สามารถพูด-ฟังได้ทุกภาษาเลยนะ
2. Granada, Spain
สำหรับใครที่เคยดูซีรีย์เรื่อง Memories of the alhambra คงจะเคยเห็นเมืองนี้เป็นฉากหลักๆ ซึ่งบอกได้เลยว่าทั้งสวยและมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมายที่น่าสนใจ แต่นอกจากการเที่ยวชมความสวยงามของของสถาปัตยกรรมแล้ว การมาเที่ยวในช่วงคริสมาสต์ที่นี่ นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้สัมผัสความงดงามของหิมะที่ปกคลุมยอดเขา Sierra Nevada สถานที่ซึ่งเป็นสุดยอดของการเล่นสกี และพระราชวัง Alhambra อันวิจิตรงดงามซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเซียรา เนวาดา แถมยังมีขบวนพาเลซสุดแฟนตาซีที่มีความอลังการและตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก
3. New York, USA
หากใครที่หลงรักในแสงสี และความครื้นเครงของเมืองที่ไม่เคยหลับใหล แนะนำว่าให้เดินทางมาที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง หากใครที่จินตนาการไม่ออกว่าเมืองนิวยอกร์กเป็นยังไงแนะนำว่าให้ดุหนังเรื่อง Home Alone เพราะเป็นบรรยากาศที่เราจะสามารถเจอได้ในนิวยอร์กนั่นเอง และ มาเมืองนี้ที่เดียวแต่ได้ฉลองตลอดเส้น ตั้งแต่ สะพานบรูคลิน ฟังเพลงประสานเสียงที่ ไทม์แสควร์ และเดินเล่นรอบเมืองที่ประดับประดาด้วยแสงสี สัญลักษณ์แห่งเทศกาลคริสต์มาส
4. Prague, Czech Republic
หากใครชอบสถาปัตกรรมที่สวยงาม และเมืองที่น่ารัก ผู้คนอัธยาศัยดีแนะนำให้เดินทางมาที่ ปราก ที่ยังคงมีหิมะตก ลองจินตนาการถึงแสงไฟที่กระทบกับสีขาวของหิมะ ยิ่งดูสวยงามระยิบระยับ ถึงแม้อากาศจะหนาวเหน็บแต่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น หากใครอยากดับหนาวสามารถเดินหาเหล้าองุ่นขายเพื่อคลายความหนาว เดินหาได้เลยเพราะมีขายแทบทุกแห่งหน เรียกได้ว่าการได้จิบไวน์ในบรรยากาศแบบนี้เป็นความฟินสูงสุดของชีวิตเลยทีเดียว แถมการได้มาฉลองคริสมาสต์ท่ามกลางประสาทสุดอลังการก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว
5. Rome, Italy
กรุงโรมเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์ น่าค้นหา แถมในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ยังเป็นช่วงที่จะมีหิมะตกทุกปี ทำให้มู้ดโทนของคริสมาสต์ที่นี่มีความเป็นสีขาวโพลน บริเวณทางเดินและท้องถนนเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิดไม่ว่าจะเป็น ต้นส้ม ไซปรัส และปาล์ม เมื่อเวลาถูกหิมะสีขาวปกคลุมแล้วเป็นภาพที่สวยงามมากทีเดียว แถมยังมีความอลังการของต้นคริสมาสต์ยักษ์ใจกลางกรุงที่รอคอยให้ผู้คนหลั่งไหลไปถ่ายรูป และยังมีเทศกาลขนมน่ารักๆให้ได้ไปเดินช้อปกันอีกด้วย
6. Edinburgh, Scotland
ใครอยากเที่ยววันคริสมาสต์แบบย้อนยุคแนะนำให้ไปฉลองที่ เอดินบะระ เพื่อได้ไปสัมผัสบรรยากาศอันแสนอบอุ่นที่จะทำให้หัวใจของคุณพองโตไปกับเสียงเพลง ประเพณี และวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีเสน่ห์จนทำให้คุณเหมือนต้องมนต์สะกด นอกจากการตกแต่งสถานที่ที่มีความสวยงาม สนุกสนานแล้ว การได้มาฟังดนตรีประสานเสียง คาบาเร่โชว์ และขบวนแห่ยานไวกิ้งที่นี่ก็ถือเป็นการฉลองคริสมาสต์ที่หลายคนที่มาถึงต้องประทับใจแน่นอน